ความหมายของการฟังและการดู
การฟัง หมายถึง กระบวนการรับสารโดยผ่านสื่อ คือ เสียง ผู้รับสารได้ยินเสียงนั้นแล้วเกิดการรับรู้ ตีความจนกระทั่งเข้าใจสาร แล้วเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง
การดู หมายถึง กระบวนการรับสารโดยผ่านสื่อ คือ ภาพหรือตัวอักษร ผู้รับสารเกิดการรับรู้ ตีความจนกระทั่งเข้าใจสาร แล้วเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง
ความสำคัญของการฟังและการดู
การฟังและการดู เป็นกระบวนการรับสารที่มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคมเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันมนุษย์ฟังและดูสิ่งต่าง ๆ มากมาย ความสำคัญของการฟังและการดูมีหลายประการ ดังนี้
๑.ให้ความรู้และเพิ่มความคิด มนุษย์เริ่มฟังและดูตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเป็นการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากระดับที่ง่ายจนกระทั่งพัฒนาสู่ระดับที่ยาก การฟังและการดูเป็นวิธีการหาความรู้อย่างหนึ่ง อาจเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนคติเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทำให้รับความรู้และเพิ่มความคิด
๒.เพลิดเพลินจิตและสร้างความจรรโลงใจ การรับสารบางประเภทจะทำให้เกิดความเพลิดเพลินใจและสร้างความจรรโลงใจ บางครั้งหากเหนื่อยล้าจากการเรียนหรือการทำงานมาทั้งวัน การฟังเพลงที่ไพเราะสักเพลงหรือดูภาพยนตร์ที่สนุกสนานสักเรื่อง จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นวิธีการพักผ่อนประเภทหนึ่ง นอกจากนี้เนื้อหาสาระของเรื่องยังให้แง่คิดบางประการ ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นความรู้สึกของผู้รับสารได้อีกทางหนึ่ง
๓.เสริมสร้างโลกทัศน์ให้กว้างไกล การรับสารที่หลากหลายอย่างสม่ำเสมอ ย่อมทำให้ผู้รับสารได้รับสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น ก่อให้เกิดความคิดและมีมุมมองใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างจากเรื่องที่เคยรับมา
๔.ใช้พัฒนาตนเองและสังคม การรับสารด้วยการฟังและการดูทำให้เกิดความรู้ สร้างความคิด สร้างความเพลิดเพลินใจ และเสริมสร้างโลกทัศน์ของผู้รับสารให้กว้างไกล ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการพัฒนาในส่วนของผู้รับสารเอง เมื่อผู้รับสารนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งสร้างประโยชน์ให้ผู้คนรอบข้างหรือหน่วยงาน ก็จะเป็นการพัฒนาสังคมได้ดีวิธีหนึ่ง
ประเภทของสารที่ฟังและดู
๑.สารที่ให้ความรู้ เช่น การฟังและการดูข่าวสารข้อมูลต่างๆ การฟังและการดูเรื่องทางวิชาการและการฟังและดูเรื่องเกี่ยวกับสาขาวิชาชีพที่ตนสนใจ เป็นต้น
๒.สารที่โน้มน้าวใจ เช่น การฟังและการดูโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาสินค้าหรือโฆษณาหาเสียง การเชิญชวนให้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ การโต้วาที และการอภิปรายในบางเรื่อง เป็นต้น
๓.สารที่สร้างความจรรโลงใจ ในนี้หมายถึง การรับสารที่ทำให้เกิดความเพลิดเพลินใจเพิ่มความสุข คลายความทุกข์ และให้แง่คิดเตือนใจแก่ผู้รับสาร เช่น การฟังนิทาน การฟังเพลง การดูการ์ตูนหรือภาพยนตร์ การฟังเทศน์ การฟังและการดูเรื่องที่ทำให้ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งต่างๆในชีวิต
การวิเคราะห์และประเมินค่าสารจากการฟังและการดู
๑.การวิเคราะห์สาร การรับสารจากสื่อในแต่ละครั้ง ผู้รับสารควรพิจารณาเนื้อหาเป็นส่วนๆ โดยอาศัยการตรึกตรองด้วยเหตุผล สามารถแยกเนื้อหาส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นได้
๒.การตีความ นอกจากผู้รับสารจะแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นของสารได้แล้วขั้นตอนต่อไปคือ จะต้องพยายามเข้าใจความหมายที่แท้จริงของสารนั้นด้วย โดยอาศัยการตีความทั้งตีความตัวอักษร เนื้อหา และน้ำเสียงของสาร
๓.การวินิจฉัยเพื่อประเมินค่า เป็นขั้นตอนการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพื่อหาคุณค่าของสาร
ที่สำคัญคือ ต้องตรึกตรองสารอย่างปราศจากอคติ
การประเมินผลการรับสาร
๑.ท่าทีและการวางตัว เช่น การแต่งกาย การยิ้มแย้มแจ่มใส ความเชื่อมั่น ความกระตือรือร้น ความสามารถในการควบคุมตนเอง
๒.เสียง เช่น ความดัง ความน่าฟัง การออกเสียงที่ถูกต้องชัดเจน ความเป็นกันเอง ความนุ่มนวลน่าฟังของเสียง อัตราช้าเร็ว การย้ำ การเน้นเสียง เป็นต้น
๓.อากัปกิริยาท่าทาง เช่น การทรงตัว การเคลื่อนไหว การประสานสายตากับผู้ฟัง การใช้กิริยาท่าทางให้เหมาะสมกับคำพูดและบรรยากาศของที่ประชุม เป็นต้น
๔.ภาษาที่ใช้ เช่น ความชัดเจนของภาษาที่ใช้สื่อสารและความถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ไทย เป็นต้น
๕.ความคิดและเนื้อหาสาระ เช่น การนำเสนอที่มีจุดมุ่งหมายชัดเจน ข้อเท็จจริงถูกต้อง มีการอ้างอิงเหตุผลประกอบที่สัมพันธ์กัน และควรเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นต้น
๖.การเรียบเรียงเรื่อง เช่น เริ่มอารัมภบทน่าสนใจ ลำดับเนื้อหาสาระได้เหมาะสมและสรุปความคิดได้รัดกุม เป็นต้น